แนะนำโรคไวรัสตับอักเสบซีคืออะไร พร้อมบอกว่าเกิดจากอะไร จะรักษาได้แบบไหนบ้าง จะฉีดวัคซีนดีไหม และจะป้องกันการเกิดไวรัสตับอักเสบซีอย่างไร
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า ไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร ทำไมถึงเป็น อันตรายหรือไม่ ควรที่จะรักษาและป้องกันอย่างไรให้สุขภาพดีขึ้น [ดูคำตอบ]
ทำความรู้จัก ไวรัสตับอักเสบเอคืออะไร ต่างจากไวรัสตับอักเสบอื่นอย่างไร เกิดได้อย่างไร และจะรักษาให้หายได้หรือไม่ ดูรายละเอียดได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับตุ่ม PPE (Pruritic Papular Eruption in HIV) ดูสาเหตุการเกิด ลักษณะ การป้องกัน และวิธีรักษาอย่างละเอียด
ดูก่อน! แผลริมอ่อนคืออะไร อันตรายหรือไม่ รักษายังไงดีให้หาย ดูสาเหตุการเกิด ภาวะแทรกซ้อน และระยะเวลาในการรักษา
เอชไอวี คืออะไร? เอชไอวีคือไวรัสชนิดหนึ่งที่พอเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะค่อย ๆ ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกายไปเรื่อย ๆ จนทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านเชื้อโรคได้ ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้เกิดการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าคนปกติหลายสิบเท่า เอชไอวี กับ เอดส์ ต่างกันอย่างไร? ชื่อเอชไอวีจะเป็นชื่อเรียกหลักของโรคนี้ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับเชื้อจะเริ่มจากการเป็นเอชไอวีก่อน และหากไม่ได้รักษาจนร่างกายเกิดติดโรคแทรกซ้อนขึ้น ถึงจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นเอดส์ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะข้ามจากเอชไอวีเป็นเอดส์ ทำให้โรคเอดส์มีอีกชื่อหนึ่งคือโรคเอชไอวีระยะสุดท้าย เอชไอวี กับ ซิฟิลิส สองโรคนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันพอสมควร เพราะการติดเชื้อตัวใดตัวหนึ่งจะทำให้โอกาสติดอีกโรคเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า โดยมีสาเหตุมาจากแผลของโรคซิฟิลิสที่ทำให้เชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย หรือโรคเอชไอวีที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและติดเชื้อซิฟิลิสง่ายขึ้น นอกจากซิฟิลิสแล้ว ก็ยังมีโรคอื่น เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ฝีมะม่วง แผลริมอ่อน หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ที่ติดได้ง่ายขึ้นเช่นกันหากมีเชื้อเอชไอวีอยู่ เอชไอวีเกิดจากอะไร เอชไอวีเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อว่า Human immunodeficiency virus ที่เข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกาย และเป็นเหตุทำให้ทำเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว อาการของเอชไอวี เอชไอวีระยะแรกส่วนมากจะไม่แสดงอาการใด ๆ ที่เห็นได้ชัด เพราะเอชไอวีเพิ่งจะเข้าสู่ร่างกายได้ไม่นาน และจำนวนเม็ดเลือดขาวยังมีเพียงพออยู่ แต่ถ้ามีอาการเกิดขึ้น…
หูดหงอนไก่คืออะไร? หูดหงอนไก่ หรือ โรคหงอนไก่ (Anogenital wart, Condyloma acuminata)เป็นหูดชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นติ่งของผิวหนังที่ยื่นออกมาและมีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ โดยส่วนมากจะขึ้นได้ที่บริเวณอวัยวะเพศ บางคนจะมีตุ่มขึ้นบริเวณปากมดลูกก่อนซึ่งแสดงถึงอาการเริ่มต้น แต่ในบางรายสามารถขึ้นที่ทวารได้ สาเหตุการเกิดหูดหงอนไก่? หูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ที่ไปแฝงตัวอยู่บริเวณใต้ผิวหนังและทำให้เกิดเป็นหูดขึ้น หูดหงอนไก่ติดต่อได้ทางไหน? เนื่องจากบริเวณที่หูดหงอนไก่มีอาการส่วนมากจะเป็นบริเวณอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง ทำให้โรคนี้ส่วนมากติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์มากกว่า แต่ก็มีกรณีการติดเชื้อที่บริเวณอื่นเช่น ลิ้น หรือ โพรงจมูก ได้เหมือนกัน หูดหงอนไก่อันตรายไหม? โดยตัวโรคแล้วถือว่าไม่อันตราย เพราะอาการของโรคจะทำให้เกิดภาพที่อาจดูไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่พอรักษาอย่างถูกต้องอาการนี้ก็จะหายไปและไม่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย แต่ในหลาย ๆ ครั้งโรคนี้จะเป็นโรคที่รักษาหายยาก และบางรายอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ ในการรักษา หูดหงอนไก่ระยะฟักตัว? โรคหูดหงอนไก่จะมีระยะฝักตัวประมาณ 2-3 เดือนโดยเฉลี่ย แต่บางรายอาจไม่แสดงอาการใด ๆ ไปจนถึง 8 เดือน หูดหงอนไก่ อาการเริ่มต้น หูดหงอนไก่ชาย และ หูดหงอนไก่หญิง จะมีอาการเหมือนกันคือมีลักษณะคล้ายติ่ง หรือตุ่มขึ้นในบริเวณที่ใกล้เคียงกับอวัยวะเพศ หรือบริเวณอวัยวะเพศโดยตรง ส่วนมากไม่มีอาการคัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีรักษาหูดหงอนไก่ในผู้หญิง…
หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคเริม (Herpes) ว่าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคเริมเกิดจากการสัมผัสรอยโรคก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน และโรคเริมนี้สามารถขึ้นได้ทั้งที่จมูก ปาก และอวัยวะเพศ แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไรนั้น เรามาทำความรู้จักโรคเริมกันให้ชัดเจนกันได้ในบทความนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะของเริมที่จมูก สาเหตุ หรือความอันตรายของเริมที่จมูก และที่สำคัญคือจะสามารถรักษาและป้องกันการเกิดโรคเริมที่จมูกได้อย่างไร ไปดูกัน ลักษณะของเริมที่จมูก โรคเริมที่จมูก จะมีลักษณะเป็นแผลตุ่มพองเล็กๆ อาจขึ้นเป็นกลุ่มหรือมีหลายตุ่ม โดยอาจขึ้นที่จมูกหรือภายในจมูก เมื่อตุ่มน้ำแตกออกจะเกิดเป็นรอยแผลได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้ตุ่มน้ำแตกออกก็ควรป้องกันให้ดี เพราะสามารถแพร่เชื้อติดต่อผู้อื่นได้ นอกจากนี้ ขณะที่เกิดโรคยังต้องระมัดระวังห้ามแกะ หรือเกาตุ่มพองโดยเด็ดขาด สามารถปล่อยทิ้งไว้ให้แผลแห้งไปเองได้ บางคนอาจมีเริมที่จมูกด้านในและมีอาการแสบร้อนบริเวณรอยโรค หรืออาจเป็นไข้ร่วมด้วย เนื่องจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ต้องการรักษาความเจ็บป่วย หากเริมที่จมูกมีการเกิดซ้ำอาจมีแผลตุ่มน้ำขึ้นในบริเวณใกล้เคียงบริเวณเดิม มักจะมีอาการน้อยกว่าครั้งแรก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยอาจมีอาการคันและปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง เริมที่ปากคืออะไร ทำยังไงถึงหาย รวมสาเหตุ อาการ วิธีรักษาและป้องกัน สาเหตุของการเกิดเริมที่จมูก การติดเชื้อเริมที่จมูกนั้นจะเป็นเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes simplex virus ชนิดที่ 2 ซึ่งจะเป็นการติดเชื้อบริเวณริมฝีปากและจมูก ลำคอเป็นหลัก ส่วนสำหรับคนที่เพิ่งติดเชื้อเริมเป็นครั้งแรกอาจติดได้จากการสัมผัสรอยโรคหรือน้ำเหลืองที่ผิวหนัง โดยบริเวณปาก จมูก ตาและอวัยวะเพศเป็นบริเวณที่สามารถติดเชื้อได้ง่ายเมื่อได้รับการสัมผัสหรือมีช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น หากผิวหนังมีบาดแผลและได้สัมผัสเชื้อก็สามารถติดเชื้อได้…
มีแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใสๆ และรู้สึกคันขึ้นบริเวณริมฝีปาก แบบนี้ใช่อาการของเริมที่ปากหรือไม่ แล้วจะรักษาอย่างไร อันตรายไหม จะหายขาดได้อย่างไร [บททความนี้มีคำตอบ]
โรคติดต่อทางผิวหนังเพียงสัมผัสก็เป็นได้อย่าง “หูดข้าวสุก” มีลักษณะเป็นอย่างไร อันตรายหรือไม่ ต้องดูแลรักษาหรือป้องกันอย่างไร รวมคำตอบไว้ที่นี่แล้ว
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ รายละเอียดคุกกี้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้ รายละเอียดคุกกี้
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้ รายละเอียดคุกกี้